8 สิงหาคม 2568
ในขณะที่โลกกำลังจับตาความขัดแย้งระหว่างดอลลาร์และหยวน เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับสนามรบที่ซับซ้อนกว่า — บาทแข็งเกินคู่แข่ง สินค้าไทยแพงขึ้นโดยไม่มีทางเลือก และโครงสร้างส่งออกที่ยังไม่พร้อมรับความผันผวนระลอกใหม่
บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกความจริงหลังตัวเลขค่าเงิน วิเคราะห์ผลกระทบเชิงลึกต่อการส่งออกไทย และเสนอแนวทางกลยุทธ์รับมือก่อนแรงกดดันจะสายเกินไป
แนวโน้มค่าเงินโลก และคำถามเชิงยุทธศาสตร์ที่ไทยต้องตอบให้ทัน
ในโลกที่เปราะบางด้วยภูมิรัฐศาสตร์ ความเสี่ยงทางการเงิน และนโยบายการเงินของชาติมหาอำนาจ การเคลื่อนไหวของ “ค่าเงิน” กลายเป็นตัวเร่งที่สำคัญของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในประเทศเน้นการส่งออกอย่างไทย
หนึ่งในประเด็นที่กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดคือ
“การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ และการแข็งค่าของหยวนจีน”
ซึ่งกำลังกระเพื่อมผ่านห่วงโซ่การค้าเข้าสู่เศรษฐกิจไทยอย่างไม่อาจมองข้ามได้
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (DXY) อ่อนค่าลงมากกว่า 5.6% ตั้งแต่ต้นปี 2024
หยวนจีน (CNY) แข็งค่าขึ้น ~3% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วงเดียวกัน
เงินบาท (THB) แข็งค่าขึ้น ~5.7% เทียบกับดอลลาร์ จากระดับเฉลี่ย 36.1 → 32.8 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงไตรมาสแรก 2024
(ที่มา: Reuters, BoT, Q3/2024)
เมื่อหยวนแข็งและดอลลาร์อ่อน เท่ากับว่าสินค้าจากจีน "แพงขึ้น" เมื่อส่งออกไปยังประเทศที่อิงดอลลาร์ เช่น สหรัฐฯ หรืออาเซียนบางประเทศ
แต่ในขณะเดียวกัน… เงินบาทแข็งเร็วกว่า หยวนในหลายช่วงเวลา ทำให้:
ประเด็น | ผลกระทบต่อสินค้าไทย |
---|---|
ค่าเงินหยวนแข็ง | ส่งออกจากจีนมีราคาสูงขึ้น → ไทยได้เปรียบบางส่วน |
แต่บาทแข็งกว่าหยวน | สินค้าไทยกลับยิ่งแพงกว่าในตลาดโลก |
เมื่อเทียบกับคู่แข่ง (เวียดนาม/อินโดนีเซีย) |
ไทยเสียเปรียบด้านราคามากขึ้น |
สมาคมผู้ส่งออกไทยระบุว่า เงินบาทแข็งเพียง 1 บาท/ดอลลาร์ → กำไรต่อคำสั่งซื้อลดลง ~2–3%
บริษัทขนาดกลางในกลุ่มเกษตรแปรรูป–อาหารสูญเสียคำสั่งซื้อกว่า 15% ไปยังเวียดนามและมาเลเซียใน Q2/2024
(ที่มา: Thai Shippers’ Council, 2024)
ส.ค. 2024: การส่งออกไทยขยายตัว +7.0% YoY
ตลอดทั้งปี 2024 การส่งออกไทยเติบโต ~2–3% โดยมีแรงหนุนจากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มอาหารเป็นหลัก
แต่… ธนาคารแห่งประเทศไทยเตือนว่า “การฟื้นตัวนี้อาจไม่ยั่งยืน หากโครงสร้างการส่งออกยังพึ่งสินค้าเดิมในตลาดเดิม”
(ที่มา: BoT, Reuters, Thai Times)
ช่วงเวลา | ค่าเฉลี่ยการเติบโต | หมายเหตุ |
---|---|---|
2001–2011 | +11.8% | ยุคเฟื่องฟูหลังเปิด FTA |
2012–2023 |
+2.2% |
ติดกับดักโครงสร้างผลิตเดิม |
สินค้าส่งออกหลักคือสินค้าโภคภัณฑ์ (commodities) ซึ่งปรับราคาตามตลาดโลก
ห่วงโซ่มูลค่า (value chain) ส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับต้นน้ำ–กลางน้ำ
การเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันด้านราคาในยุค "ค่าเงินผันผวน" จึงทำได้ยาก
ดอลลาร์ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง จากภาวะดอกเบี้ยสูงสุด–หยุดขึ้น (peak rate)
หยวนอาจยังทรงตัวในระดับแข็งค่าต่อเนื่อง หากเศรษฐกิจจีนไม่ฟื้นอย่างรุนแรง
เงินบาทจะยังคงผันผวนตามเงินทุนไหลเข้า หากไม่มีมาตรการดูแลเสถียรภาพเฉพาะทาง
ไทยอาจเสียคำสั่งซื้อในกลุ่มตลาดเดิมเพิ่มขึ้นอีก หากไม่มีการปรับตัวทางยุทธศาสตร์
ธุรกิจไทยอาจถูกบีบให้แข่งขันด้วยราคา โดยไม่มีอาวุธอื่นมารองรับ หากไม่เร่งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างต้นทุน
ดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งเร็วกว่าคู่แข่งในภูมิภาค
พัฒนาเครื่องมือใหม่สำหรับป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
เร่งเจรจา FTA และสร้างพันธมิตรการค้าในตลาดใหม่ (อินเดีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา)
วางกลยุทธ์ hedging currency โดยอิงพฤติกรรมเงินทุนระยะยาว
ปรับโฟกัสไปยัง สินค้า value-added เช่น อาหารฟังก์ชัน, bio-based, เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ
กระจายตลาดออกจากประเทศที่ใช้เงินดอลลาร์เป็นหลัก
เมื่อค่าเงินไม่ใช่แค่เรื่องของธนาคารชาติ
แต่คือ “ตัวกำหนดชะตาธุรกิจ” ในระดับไมโคร —
ความเข้าใจต่อทิศทางค่าเงินในยุคเศรษฐกิจผันผวนจึงไม่ใช่แค่ “ความได้เปรียบ”
แต่คือ “เงื่อนไขของการอยู่รอด”หากไทยยังพึ่งสินค้าชนิดเดิม ตลาดเดิม และโครงสร้างราคาที่เปราะบาง
การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินในอีก 2 ปีข้างหน้า อาจไม่ใช่แค่ความท้าทาย
แต่คือ แรงบีบครั้งใหญ่ที่สุดต่อภาคส่งออกไทยในรอบทศวรรษ
Bank of Thailand (BoT). (2024). Monetary Policy Report Q1-Q2
Reuters. (Oct–Dec 2024). Export and currency movement reports
Thai Shippers’ Council. (2024). Export sentiment survey
Allianz Trade. (2023). Currency Outlook: Asia-Pacific Focus
World Bank. (2023). Global Economic Prospects
"ในสงครามของค่าเงิน ไม่มีใครได้เปรียบตลอดไป — แต่ผู้ที่ปรับตัวก่อน ย่อมอยู่รอดในทุกคลื่นเศรษฐกิจ"
บทความที่น่าสนใจ:
หมวดหมู่บทความ
หน้าที่เข้าชม | 476,987 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 282,155 ครั้ง |
เปิดร้าน | 4 พ.ย. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 13 ก.ย. 2568 |