3 สิงหาคม 2568
อ้างอิงจากรายงานของ Reuters เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2025
หมายเหตุ: บทความนี้จัดทำขึ้นจากการวิเคราะห์ข้อมูลสาธารณะที่เผยแพร่โดยสื่อหลักสากล โดยเฉพาะรายงานของ Reuters เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2025 เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ มิได้มีเจตนาใส่ร้ายหรือสร้างความเกลียดชังต่อบุคคลหรือประเทศใด
แม้สมเด็จฮุน เซนจะลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อปี พ.ศ. 2566 และดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาในปัจจุบัน แต่รายงานจาก Reuters ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2025 ระบุว่า เขายังคงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดยุทธศาสตร์ในช่วงความขัดแย้งชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 24–28 กรกฎาคม 2025
จากคำให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงในภูมิภาค รวมถึงภาพถ่ายที่เผยแพร่สู่สาธารณะ ฮุน เซนยังคงมีอิทธิพลในกระบวนการตัดสินใจของรัฐบาลกัมพูชา และยังคงปรากฏตัวในลักษณะของผู้นำภาคสนาม ทั้งในรูปแบบการประชุมกับเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงและการให้คำสั่งผ่านระบบวิดีโอคอล
สื่อโซเชียลมีเดียของกัมพูชาเผยแพร่ภาพของฮุน เซนในช่วงวิกฤตชายแดน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาสวมชุดเครื่องแบบทหารเต็มยศ ขณะเข้าร่วมการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูง มีแผนที่สนามรบแสดงบนโต๊ะประชุม และอีกภาพหนึ่งแสดงให้เห็นเขาถือโทรศัพท์มือถือและเครื่องดื่มจากร้าน Starbucks ขณะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ภาพถ่ายอีกชุดหนึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอลกับผู้บัญชาการกองกำลังที่ประจำอยู่ในพื้นที่ชายแดน ซึ่งสะท้อนบทบาทของเขาในฐานะผู้นำเชิงยุทธศาสตร์ที่ยังคงควบคุมสถานการณ์ในสนาม
นักการทูตคนหนึ่งในภูมิภาคกล่าวกับ Reuters ว่า “เขาแสดงบทบาทอย่างชัดเจนในฐานะผู้นำที่ยังควบคุมทิศทางของกองทัพ แม้จะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วก็ตาม”
ในช่วงที่เกิดความขัดแย้ง ฮุน เซนมีการเคลื่อนไหวบน Facebook อย่างต่อเนื่อง โดยโพสต์ข้อความที่เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปกป้องอธิปไตยของกัมพูชา พร้อมทั้งมีการแสดงความคิดเห็นที่โจมตีรัฐบาลไทยอย่างรุนแรงในบางโพสต์
นักวิเคราะห์บางรายระบุว่า โพสต์เหล่านี้มีบทบาทในการกระตุ้นความรู้สึกชาตินิยมในหมู่ประชาชน และอาจมีผลต่อการเสริมแรงสนับสนุนจากฐานเสียงในประเทศ แม้จะมีคำเตือนจากประชาคมระหว่างประเทศว่าอาจทำให้สถานการณ์ตึงเครียดรุนแรงยิ่งขึ้น
ฝ่ายไทยได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูชา รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจทางทหารที่นำไปสู่การยิงโจมตีพื้นที่พลเรือนในฝั่งไทย ด้วยอาวุธหนัก เช่น จรวด BM‑21
โฆษกกองทัพไทยกล่าวว่า “การยิงโจมตีที่เกิดขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 27 กรกฎาคม ซึ่งทำให้พลเรือนเสียชีวิตและทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก อาจเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม หากมีหลักฐานชัดเจนว่าสั่งการจากผู้นำระดับสูง”
ขณะที่สถานการณ์ทวีความรุนแรง ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของกัมพูชา กลับเน้นบทบาทในเชิงการทูต โดยเป็นผู้นำคณะเดินทางไปเจรจาสันติภาพที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นเวทีสำคัญที่นำไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขในวันที่ 28 กรกฎาคม
การเปรียบเทียบระหว่างบทบาทของฮุน มาเน็ตในเชิงสร้างสันติ กับบทบาทของฮุน เซนในเชิงยุทธศาสตร์ ยิ่งตอกย้ำว่าการเมืองกัมพูชาในช่วงวิกฤตครั้งนี้ยังคงอยู่ภายใต้เงาของอดีตผู้นำ
วันที่ |
เหตุการณ์สำคัญ |
---|---|
24–28 ก.ค. 2025 | เกิดการปะทะอย่างรุนแรงในหลายจุดชายแดน มีรายงานผู้เสียชีวิตกว่า 40 ราย และผู้พลัดถิ่นกว่า 300,000 คน |
28 ก.ค. 2025 | ไทย–กัมพูชาบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย |
31 ก.ค. 2025 | Reuters เผยแพร่รายงานชี้บทบาทฮุน เซนในวิกฤตชายแดน แม้จะพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว |
อำนาจยังไม่เปลี่ยนมือ – แม้มีการเปลี่ยนผู้นำในทางนิตินัย แต่ในทางปฏิบัติ ฮุน เซนยังคงมีบทบาททางยุทธศาสตร์อย่างเด่นชัด
ภาพลักษณ์ผู้นำภาคสนาม – การปรากฏตัวในชุดทหารและการประชุมกับกองทัพช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของผู้บัญชาการสูงสุด
การใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีประสิทธิภาพ – ฮุน เซนยังคงสามารถใช้ Facebook เป็นเครื่องมือทางการเมือง แม้จะเคยถูกวิจารณ์อย่างหนักจาก Meta
บทความที่น่าสนใจ:
หมวดหมู่บทความ
แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ
หน้าที่เข้าชม | 476,987 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 282,155 ครั้ง |
เปิดร้าน | 4 พ.ย. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 13 ก.ย. 2568 |