🇯🇵 รายงานเศรษฐกิจญี่ปุ่นล่าสุด – กรกฎาคม 2025
📖 แหล่งข่าว: Reuters
เศรษฐกิจญี่ปุ่นต้นไตรมาส 3/2025 เผชิญจุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อธนาคารกลางเดินหน้านโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง ขณะเดียวกันรัฐบาลเร่งเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมส่งออกหลัก แม้การบริโภคภายในประเทศและความเชื่อมั่นธุรกิจฟื้นตัว แต่ค่าจ้างจริงและแรงกดดันเงินเฟ้อยังคงท้าทายทิศทางการเติบโตในระยะถัดไป
นายคาซุยูกิ มาสุ กรรมการคนใหม่ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แสดงความเห็นว่า ควรระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม จนกว่านโยบายการค้าของสหรัฐฯ จะมีความชัดเจน เนื่องจากความเสี่ยงต่อการส่งออกรถยนต์ไปยังตลาดสหรัฐฯ ยังคงสูง
ประธาน BOJ นายคาซุโอะ อุเอดะ ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังไม่เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงเกินระดับ 2% จึงควรใช้ความรอบคอบในนโยบายการเงินเช่นกัน
นายกรัฐมนตรีชิเกรุ อิชิบะ ย้ำจุดยืนรัฐบาลญี่ปุ่นว่า จะปกป้องผลประโยชน์ของชาติในระหว่างการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ โดยเฉพาะในประเด็นการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ที่อาจสูงถึง 25% ขณะนี้ทีมเจรจาญี่ปุ่นนำโดยนายเรียวเซ อากาซาวะ อยู่ระหว่างหารือกับฝ่ายสหรัฐฯ เพื่อหาข้อยุติที่เหมาะสม
ผลสำรวจธุรกิจ (Tankan) ของ BOJ ล่าสุดระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้ผลิตขนาดใหญ่และผู้ให้บริการปรับตัวดีขึ้นในเดือนมิถุนายน แม้ความเสี่ยงจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยกดดัน โดยดัชนีภาคบริการ (PMI) อยู่ที่ 51.7 สะท้อนถึงการขยายตัวของกิจกรรมทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
การใช้จ่ายของครัวเรือนญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี อย่างไรก็ตาม ค่าจ้างที่แท้จริงปรับตัวลดลง 2.9% ทำให้กำลังซื้อที่แท้จริงยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ สะท้อนแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่สูงกว่าการปรับขึ้นค่าจ้าง
BOJ ยังคงดำเนินนโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยสมาชิกกรรมการบางรายระบุว่า ควรปรับขึ้นดอกเบี้ยก็ต่อเมื่อมีหลักฐานชัดเจนว่าเงินเฟ้อสูงกว่า 2% อย่างมั่นคง ล่าสุดมีรายงานว่า BOJ อาจชะลอแผนลดการซื้อพันธบัตร และเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปยังไตรมาสแรกของปี 2026
ประเด็น | สถานการณ์ | ความเสี่ยง & โอกาส |
---|---|---|
ดอกเบี้ย BOJ | ยังคงอัตรา 0.5% รอความชัดเจนของเงินเฟ้อแท้ | ✅ โอกาสขึ้น Q1/2026 ✖️ ความเสี่ยงภาษีสหรัฐฯหน่วงการตัดสินใจ |
การค้า/ส่งออก | ปกป้องผลประโยชน์ชาติและต่อรองภาษี | ✅ อาจได้ข้อยกเว้น ✖️ ความเสี่ยงสงครามภาษียังมีอยู่ |
การบริโภค | ฟื้นตัวดี แต่กำลังซื้อจริงยังอ่อนแอ | ✅ รายได้เพิ่มขึ้น ✖️ ค่าจ้างจริงยังไม่ทันเงินเฟ้อ |
กิจกรรมทางธุรกิจ | ดีขึ้น ทั้งภาคการผลิตและบริการ | ✅ ความเชื่อมั่นเชิงบวก ✖️ ความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก |
ค่าเงินเยน | แข็งค่าจากความไม่แน่นอนแต่มีภาระต้นทุน | ✅ ส่งออกได้เปรียบในบางช่วง ✖️ ต้องจับตาส่งออกและดอกเบี้ย |
สหรัฐฯ อยู่ระหว่างพิจารณาเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์จากญี่ปุ่นสูงสุดถึง25%
ญี่ปุ่นส่งออกรถยนต์ไปสหรัฐฯ~1.5ล้านคัน/ปี มูลค่ากว่า4ล้านล้านเยน
หากภาษีมีผลจริง ต้นทุนรถญี่ปุ่นในตลาดสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย4–7แสนเยนต่อคัน
✖️ ทำให้ยอดขายอาจลดลง~10–15% และอัตรากำไรผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ (Toyota, Honda, Nissan) หดตัว
ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานในญี่ปุ่นจะลุกลามถึงอุตสาหกรรมชิ้นส่วน>3,000บริษัท
กลยุทธ์ที่ผู้ผลิตกำลังใช้:
✅ ขยายกำลังผลิตในสหรัฐฯ
✅ รีแบรนด์รถรุ่นเล็ก–ไฮบริดให้คุ้มค่า
✅ หาตลาดใหม่ เช่น อาเซียน–อินเดีย–ละตินอเมริกา
BOJ ส่งสัญญาณว่า จะยัง คงดอกเบี้ยนโยบายที่0.5% ไปจนกว่าหลักฐานเงินเฟ้อแท้ (underlying inflation) จะเกิน2%อย่างมั่นคง
คาดว่าก่อนสิ้นปี 2025 BOJ จะค่อย ๆ ลดปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาล (tapering)
✖️ เพื่อควบคุมผลข้างเคียง เช่น การบิดเบือนราคาพันธบัตรและค่าเงิน
นักลงทุนประเมินโอกาสขึ้นดอกเบี้ยจริงครั้งต่อไปที่Q1/2026
ความเสี่ยงที่ BOJ จับตาในไตรมาส 3/2025:
✖️ ภาษีสหรัฐฯ กระทบส่งออก–เงินเฟ้อ
✖️ ค่าเงินเยนแข็งเกินไป
✖️ ค่าจ้างแท้ยังไม่สอดคล้องเงินเฟ้อ
กลยุทธ์ที่แนะนำสำหรับธุรกิจการเงิน–ลงทุน:
✅ เตรียมพอร์ตลงทุนสำหรับดอกเบี้ยขาขึ้น
✅ จัดการต้นทุนหนี้ล่วงหน้า
✅ ใช้ตราสารป้องกันความเสี่ยงค่าเงินเยน
7/7/68
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ:
หมวดหมู่บทความ
หน้าที่เข้าชม | 476,987 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 282,155 ครั้ง |
เปิดร้าน | 4 พ.ย. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 13 ก.ย. 2568 |