9 สิงหาคม 2568
ในยุคที่เศรษฐกิจโลกกำลังเปลี่ยนทิศสู่ความยั่งยืน พลังงานสะอาดไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือในการลดการปล่อยคาร์บอน แต่กำลังกลายเป็นตัวชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและภูมิภาค อาเซียนกำลังเร่งเปลี่ยนผ่านพลังงานจากฟอสซิลสู่พลังงานหมุนเวียน ขณะที่มหาอำนาจเศรษฐกิจและนักลงทุนทั่วโลกจับตาดูว่า “ไทย” จะยืนอยู่ตรงไหนในสมรภูมินี้
บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกตัวเลข สถิติ และโอกาสเชิงยุทธศาสตร์ของไทยในตลาดคาร์บอนต่ำ พร้อมกราฟแสดงการเปรียบเทียบสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนของไทยและค่าเฉลี่ยอาเซียน เพื่อให้เห็นชัดว่าการตัดสินใจวันนี้ อาจเป็นตัวกำหนดอนาคตเศรษฐกิจไทยในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า
โอกาสและความท้าทายของไทยในสนามแข่งขันพลังงานยุคใหม่ ที่โลกกำลังเดินหน้าสู่ Net Zero
ตลาดพลังงานโลกกำลังพลิกโฉมสู่ ยุคคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Economy) ที่แข่งขันกันด้วยความสะอาดของพลังงานมากกว่าปริมาณเชื้อเพลิง การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียนไม่ใช่เพียงเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่เป็น เกมเศรษฐกิจและการเมืองระดับภูมิภาค ที่จะกำหนดว่าใครเป็นผู้นำ ใครเป็นผู้ตาม
สำหรับไทย คำถามสำคัญคือ “เราจะอยู่ตรงไหนในตลาดใหม่นี้” และจะใช้โอกาสจากการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างไร
ปีเป้าหมาย |
สัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในกำลังผลิตไฟฟ้า |
แหล่งข้อมูล |
---|---|---|
2037 (พ.ศ. 2580) | 51% | BOI, PDP 2024 |
2040 (พ.ศ. 2583) | 68% | LT-LEDS (OECD) |
2050 (พ.ศ. 2593) | 74% | LT-LEDS (OECD) |
หมายเหตุ:
ปัจจุบัน (ปี 2025) ไทยผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนคิดเป็นประมาณ 12% ของกำลังผลิตรวม (รวมพลังน้ำ) ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายในอีก 12 ปีข้างหน้าอย่างมาก
- แผน AEDP เดิมเคยตั้งเป้าราว 37% ภายในปี 2036 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขในแผน PDP 2024 ที่กำหนดไว้ 51% ภายในปี 2037
ขณะที่แผน LT-LEDS และ แผนพลังงานชาติ ชี้ว่า ไทยต้องเพิ่มกำลังผลิตจากโซลาร์–ลมอย่างก้าวกระโดด เพื่อบรรลุเป้าหมาย 50%+ ภายในปี 2037 และขยับสู่ 68% ในปี 2040 และ 74% ในปี 2050
(ที่มา: BOI, PDP 2024, LT-LEDS, OECD, IEA, World Bank, ข้อมูลพลังงานหมุนเวียน Wikipedia อัปเดตปี 2025)
พลังงานลม: กำลังผลิตปัจจุบัน ~1.5 GW แต่ศักยภาพเชิงเทคนิคอยู่ที่ 13–17 GW
พลังน้ำ: กำลังผลิต ~3.7 GW จากเขื่อน 26 แห่ง รวมถึงแผนพัฒนาโซลาร์ลอยน้ำในเขื่อนหลัก
โซลาร์เซลล์: ขยายตัวเร็วที่สุด ปัจจุบันมีกำลังผลิตติดตั้งกว่า 4 GW และมีศักยภาพมากกว่า 40 GW การเติบโตเฉลี่ย +10.60%/ปี (2023–2035)
ไฟฟ้าสะอาด (ไม่รวมพลังน้ำ): ปี 2025 ผลิต ~28.11 พันล้าน kWh คาดโตต่อเนื่อง 2.59%/ปี ถึง 2029
ก๊าซผสมไฮโดรเจน: เป้าหมาย 5% ภายในปี 2030 เพื่อสร้างไฟฟ้าสะอาดยั่งยืน
อาเซียนจะเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าหมุนเวียนจาก 124.6 GW (2025) → 178.1 GW (2030) คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ประมาณ 7.4%
ไทยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์รายใหญ่ของโลก รองจากจีนและเวียดนาม
โครงการ ASEAN Green Grid อาจเปิดโอกาสให้ไทยเป็นศูนย์กลางการส่งไฟฟ้าสะอาดข้ามพรมแดน
ดึงดูดการลงทุนสีเขียว (Green FDI) จากผู้ผลิตที่ต้องการลดคาร์บอนฟุตพรินต์
สร้างงานใหม่ ในภาคพลังงานและยานยนต์ไฟฟ้า
ต่อยอดอุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์ ที่ไทยมีฐานการผลิตอยู่แล้ว
ระบบสายส่งไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานยังไม่รองรับการใช้พลังงานหมุนเวียนในสัดส่วนสูง
ต้นทุนกักเก็บพลังงาน (Battery Storage) ยังสูง
การแข่งขันจากเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนามที่มีนโยบาย Feed-in Tariff จูงใจนักลงทุนมากกว่า
ภาพประกอบ: แนวโน้มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนของไทยเทียบกับเป้าหมาย 2037–2050 พร้อมเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยอาเซียน
(ที่มา: Board of Investment of Thailand – PDP 2024, OECD – LT-LEDS, International Energy Agency – Southeast Asia Energy Outlook, World Bank – Thailand Energy Transition Report อัปเดต Dec 2024)
หากไทยต้องการเป็น “ผู้นำตลาดคาร์บอนต่ำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” จำเป็นต้องเดินหน้าพร้อมกันใน 3 มิติ:
เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานพลังงานหมุนเวียน และระบบสายส่งอัจฉริยะ
สร้างแรงจูงใจทางเศรษฐกิจ ให้เอกชนและนักลงทุนต่างชาติร่วมขับเคลื่อน
พัฒนาบุคลากรและเทคโนโลยี ให้รองรับอุตสาหกรรมพลังงานอนาคต
“พลังงานสะอาดไม่ใช่ทางเลือก แต่คือข้อสอบที่ไทยต้องทำให้ได้คะแนนสูงกว่าคู่แข่ง”
Board of Investment of Thailand (BOI) – ข้อมูลเป้าหมายพลังงานหมุนเวียน PDP 2024
LT-LEDS (OECD) – Long-term Low Emissions Development Strategy
Wikipedia – Renewable energy in Thailand (อัปเดต 2025)
International Energy Agency (IEA) – Southeast Asia Energy Outlook
ASEAN Centre for Energy – ASEAN Renewable Energy Statistics 2024
World Bank – Thailand Energy Transition Reports
BloombergNEF – Thailand: Turning Point for a Net-Zero Power Grid
ASEAN Centre for Energy – ASEAN Green Grid Development Plan
บทความที่น่าสนใจ:
หมวดหมู่บทความ
หน้าที่เข้าชม | 476,989 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 282,157 ครั้ง |
เปิดร้าน | 4 พ.ย. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 13 ก.ย. 2568 |