6 สิงหาคม 2568 | กรุงเทพฯ – กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Headline CPI) ของประเทศไทยในเดือนกรกฎาคม 2568 ลดลง 0.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งเป็นการหดตัวที่มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ประมาณ –0.4% และถือเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ สี่ติดต่อกัน สะท้อนถึงแรงกดดันเงินเฟ้อต่ำที่ยังคงอยู่ในระบบเศรษฐกิจ
CPI เดือนกรกฎาคม 2568: –0.7% YoY
CPI เดือนมิถุนายน 2568: –0.25% YoY
Core CPI (ไม่รวมอาหารสดและพลังงาน): +0.84% YoY
CPI เฉลี่ย 7 เดือน (ม.ค.–ก.ค.): +0.21%
เป้าหมายเงินเฟ้อของ ธปท.: 1.0–3.0%
อัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบัน: 1.75%
การลดลงของ CPI มีปัจจัยหลักมาจาก:
ราคาพลังงานที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะน้ำมันเบนซินและดีเซล
ค่าไฟฟ้าและก๊าซหุงต้มมีราคาต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน
ผลผลิตภาคเกษตร เช่น ผักสดและผลไม้ มีราคาลดลงจากฤดูกาลเพาะปลูกที่ดี
แม้อัตราเงินเฟ้อโดยรวมจะหดตัว แต่กระทรวงพาณิชย์ยังคงยืนยันว่า เศรษฐกิจไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะ เงินฝืด (Deflation) เพราะราคาสินค้าในหมวดบริการและสินค้าบางประเภท เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าโดยสาร และอาหารปรุงสำเร็จ ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% และระบุว่า จะติดตามสถานการณ์เงินเฟ้อและการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด โดยยังไม่มีท่าทีชัดเจนว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น
บริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งรวมถึง Nomura และ SCB CIO ให้ความเห็นตรงกันว่า อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไปสะท้อนถึง “ความอ่อนแรงของอุปสงค์ภายในประเทศ” และอาจเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง
“แม้ Core CPI จะยังเป็นบวก แต่ระดับการบริโภคของประชาชนทั่วไปเริ่มแสดงสัญญาณถดถอย โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย” – นักวิเคราะห์จาก Capital Nomura Securities กล่าว
กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่า:
ไตรมาส 3/2568: CPI มีแนวโน้มหดตัวเฉลี่ย –0.5% YoY
ทั้งปี 2568: CPI อาจเฉลี่ยอยู่ที่ 0.0–1.0%
อัตราเงินเฟ้อต่ำ สะท้อนการบริโภคภายในที่ยังเปราะบาง
ต้นทุนภาคพลังงานลดลง ส่งผลดีต่อผู้บริโภค แต่กระทบรายได้ผู้ผลิต
ธปท. ยังไม่ลดดอกเบี้ย แต่เริ่มมีแรงกดดันให้พิจารณามาตรการผ่อนคลายทางการเงิน
นโยบายภาครัฐอาจต้องกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ผ่านงบลงทุนและสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย
หมายเหตุ: บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจโดยใช้ข้อมูลจากแหล่งข่าวสาธารณะ เช่น Reuters, Channel News Asia, Investing.com และข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ไม่มีเจตนาแสดงความเห็นทางการเมืองหรือชี้นำการลงทุนใดๆ
บทความที่น่าสนใจ:
หมวดหมู่บทความ
หน้าที่เข้าชม | 476,989 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 282,157 ครั้ง |
เปิดร้าน | 4 พ.ย. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 13 ก.ย. 2568 |