วันที่เผยแพร่: 25-7-2025
แหล่งอ้างอิง: Reuters, AP News, The Times
สถานการณ์การรบระหว่างไทย-กัมพูชา: การสูญเสียชีวิตและการอพยพที่รุนแรง
ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศไทยและกัมพูชายังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยมีการรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน ซึ่งรวมถึงพลเรือนชาวไทย 14 คนและทหารชาวกัมพูชา 1 คน นอกจากนี้ยังมีพลเรือนกว่า 130,000 คนที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการแลกเปลี่ยนการยิงปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ความรุนแรงดังกล่าวเกิดขึ้นจากการปะทะกันที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ชายแดน ซึ่งทั้งสองประเทศต่างกล่าวหากันว่าได้โจมตีพื้นที่พลเรือน ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายและการสูญเสียชีวิตอย่างไม่สามารถยอมรับได้
การทหารของทั้งสองฝ่ายต่างใช้กำลังอย่างเต็มที่ ในขณะที่ทั้งสองประเทศต่างอ้างว่าอีกฝ่ายได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและโจมตีพื้นที่พลเรือน การเผชิญหน้าครั้งนี้เกิดขึ้นจากข้อพิพาทระหว่างประเทศที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะการควบคุมพื้นที่บางส่วนในบริเวณชายแดนที่ทั้งสองประเทศต่างอ้างสิทธิ์ และได้มีการโจมตีทางทหารที่ทำให้สถานการณ์ยิ่งทวีความรุนแรง
การสูญเสียชีวิตและการอพยพ
ตามรายงานล่าสุด ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน ซึ่งรวมถึงพลเรือนชาวไทย 14 คน และทหารชาวกัมพูชา 1 คน การโจมตีที่เกิดขึ้นยังทำให้มีผู้พลัดถิ่นกว่า 130,000 คนในทั้งสองประเทศ ขณะที่การยิงปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศยังคงดำเนินอยู่ การสูญเสียชีวิตที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นผลกระทบจากการปะทะทางทหารเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ถูกโจมตี ซึ่งรวมถึงเด็กและผู้สูงอายุที่ไม่สามารถหลบหนีได้ทันท่วงที
การปะทะทางทหาร
ทั้งสองฝ่ายยังคงปะทะกันอย่างรุนแรงโดยใช้เครื่องบินขับไล่ F-16 จากไทยเพื่อตอบโต้การโจมตีด้วยจรวด BM-21 จากกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหากันว่าได้โจมตีพื้นที่พลเรือน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีผู้บริสุทธิ์อาศัยอยู่ ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน การใช้กำลังทางทหารอย่างรุนแรงในครั้งนี้ทำให้มีการสูญเสียชีวิตเพิ่มขึ้น และทำให้สถานการณ์ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
ความตึงเครียดทางการทูต
สถานการณ์การรบยังส่งผลให้ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศยิ่งทวีความตึงเครียด โดยทั้งสองประเทศได้มีการไล่ทูตของอีกฝ่ายออกจากประเทศของตน ทั้งนี้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จะมีการประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ โดยทั้งสองประเทศจะนำเสนอหลักฐานเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศจากอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะทำให้สถานการณ์ทางการทูตยิ่งรุนแรงขึ้น
การตอบสนองจากนานาชาติ
ประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงสหรัฐฯ จีน และสมาชิกอาเซียน เช่น มาเลเซีย ได้ออกมาเรียกร้องให้ทั้งสองประเทศยุติความรุนแรงและหาทางออกที่สงบและยั่งยืน สหรัฐฯ ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะ โดยเฉพาะการโจมตีพลเรือนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางทหาร ในขณะที่กัมพูชากับไทยต่างยังคงยืนยันว่าพวกเขาจะเจรจากันโดยตรงโดยไม่ขอการไกล่เกลี่ยจากภายนอก
ทั้งนี้ ความขัดแย้งยังคงดำเนินต่อไป และต้องรอดูว่าในอนาคตจะมีการหาทางออกที่ยั่งยืนสำหรับสถานการณ์นี้หรือไม่ ขณะเดียวกันก็มีความกังวลว่าเหตุการณ์นี้อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจในภูมิภาค หากไม่สามารถยุติความขัดแย้งได้ในเร็วๆ นี้
บทความที่น่าสนใจ:
หมวดหมู่บทความ
หน้าที่เข้าชม | 476,989 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 282,157 ครั้ง |
เปิดร้าน | 4 พ.ย. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 13 ก.ย. 2568 |